การออกแบบโครงสร้างระดับโลก
(Designing a global
structure)
กลยุทธ์ของบริษัทขนาดใหญ่จะมีมุมมองระดับโลก
ถ้าบริษัทผลิตและจำหน่ายสินค้าของคนในตลาดระหว่างประเทศ
บริษัทขนาดใหญ่ก็มีแนวโน้มที่จะมีการผลิตทั่วโลก
กลยุทธ์ระดับโลกที่มีผลต่อการเลือกโครงสร้างและการควบคุมของบริษัทมีหลักเบื้องต้น 4 ประการคือ
1.กลยุทธ์ภายในประเทศหลายประเทศศและโครงสร้าง (Multidomestic strategy and structure)
2.กลุยทธ์ระหว่างประเทศและโครงสร้าง (International strategy and structure)
3.กลยุทธ์ระดับโลกและโครงสร้าง (Global strategy and structure)
4.กลยุทธ์ข้ามชาติและโครงสร้าง (Transnational strategy and structure)
5.กลยุทธ์โครงสร้างแมททริกซ์ระดับโลก (Global-matrix structure)
1.กลยุทธ์ภายในประเทศหลายประเทศศและโครงสร้าง (Multidomestic strategy and structure)
2.กลุยทธ์ระหว่างประเทศและโครงสร้าง (International strategy and structure)
3.กลยุทธ์ระดับโลกและโครงสร้าง (Global strategy and structure)
4.กลยุทธ์ข้ามชาติและโครงสร้าง (Transnational strategy and structure)
5.กลยุทธ์โครงสร้างแมททริกซ์ระดับโลก (Global-matrix structure)
1.กลยุทธ์ภายในประเทศหลายประเทศและโครงสร้าง (Multidomestic strategy and
structure) เป็นการจัดการซึ่งบริษัทหนึ่งมีการปฏิบัติการในหลายประเทศโดยใช้หน่วยธุรกิจในท้องถิ่นปฏิบัติงานแบบเป็นอิสระโดยไม่ต้องประสานงานกัน
และเป็นกลยุทธ์ในการปรับปรุงแก้ไขการออกแบบผลิตภัณฑ์
และการโฆษณาให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของบุคคลในแต่ละท้องถิ่น
ซึ่งจะต้องได้รับมอบอำนาจแบบกระจายอำนาจสู่ผู้จัดการในแผนกต่างประเทศแต่ละแผนก
และผู้จัดการก็จะจัดหากลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น
ในโครงสร้างระดับโลก
ผู้จัดการสำนักงานใหญ่ของบริษัทไม่สามารถควบคุมการดำเนินงานในแต่ละประเทศได้
จึงต้องใช้การควบคุมแบบกระจายอำนาจและยอมให้ผู้จัดการในแต่ละประเทศมีอำนาจตัดสินใจในการดำเนินงานในต่างประเทศ
โดยผู้จัดการสำนักงานใหญ่จะใช้วิธีการควบคุมตลาดและผลผลิต เช่น
ควบคุมอัตราผลตอบแทน (Rate
of return)
การเพิ่มส่วนครองตลาด (Growth
in market share) และต้นทุนการดำเนินงาน
(Operation costs) เพื่อประเมินผลการปฏิบัตงานของแต่ละประเทศ
สำนักงานใหญ่จะนำผลการปฏิบัติงานทั่วโลกมาเปรียบเทียบเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดสรรเงินทุนและการถ่ายโอนความรู้ใหม่
ๆ สู่ประเทศต่าง ๆ
บริษัทซึ่งผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชนิดเยวกันในตลาดที่แตกต่างกันจำนวนมาก
มักรวมกลุ่มสาขาต่างประเทศในเขตต่าง ๆ ของโลก (World regions) เพื่อทำให้ง่ายต่อการรวมผลิตภัณฑ์ข้ามประเทศ เช่น อาจแบ่งเป็นเขตยุโรป
แปซิฟิก ตะวันออกกลาง เป็นต้น การรวมกลุ่มเช่นนี้เป็นการจัดกลุ่มให้เป็นตลาดเดียวกัน
และเพื่อควบคุมพฤติกรรมที่ใช้ข้ามแผนกทั้งหมดภายในเขต
ดังนั้นบริษัทสามารถได้รับประโยชน์จากการรวมกลุ่มเพราะมีวัฒนธรรมที่คล้ายกัน
จึงทำให้ข้อมูลสามารถสื่อสานถึงกันได้ง่าย เช่น
คนในเขตเดียกันมักชอบการออกแบบผลิตภัณฑ์และการตลาดที่คล้ายกัน
ซึ่งแผนกต่างประเทศแต่ละประเทศจะมีการติดต่อกันน้อยมาก
เพราะไม่ต้องการกลไกในการผสมผสาน และไม่ต้องการการพัฒนาวัฒนธรรมองค์การระดับโลก
2.กลยุทธ์ระหว่างประเทศและโครงสร้าง (International strategy and
structure)
บริษัทซึ่งใช้กลยุทธ์ระหว่างประเทศจะมีการขยายฐานการผลิตไปทั่วโลก
โดยปกติบริษัทจะเปลี่ยนเข้าสู่กลยุทธ์นี้
เมื่อเริ่มต้นขายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศตลาดต่างประเทศ
บริษัทลักษณะนี้จะเพียงแต่เพิ่มแผนกต่างประเทศ (Foreign operation department) ขึ้นในโครงสร้างบริษัทที่มีอยู่
และใช้ระบบการควบคุมเช่นเดียวกัน ถ้าบริษัทใช้โครงสร้างตามหน้าที่ แผนกต่างประเทศก็ต้องร่วมมือกับแผนกผลิต
แผนกขาย และกิจกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา โดยแจ้งความต้องการสิ้นค้าของตลาดต่างประเทศ
สู่แผนกต่าง ๆ ของบริษัท
ในต่างประเทศบริษัทมักสร้างสาขาเพื่อรองรับการขายและการจัดจำหน่าย
(Sales and distribution)
เช่น บริษัท Mercedes-Benz จะมีผู้แทนจำหน่ายอยู่ในสาขาต่างประเทศ
และมีการสร้างระบบควบคุมการขายรถ การขายอะไหล่ และการใช้บริการหบังการขาย
เพื่อช่ายในการดำเนินงานของสำนักงานใหญ่
บริษัทซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลายชนิด
หรือดำเนินธุรกิจหลายอย่างจากโครงสร้างหลายแผนก
มักมีปัญหาที่ท้าทายเกี่ยวกับความร่วมมือในการไหลเวียนหรือผลิตภัณฑ์ข้ามประเทศต่าง
ๆ เพื่อจัดการการถ่ายโอนบริษัทหลายบริษัทได้สร้างแผนกระหว่างประเทศขึ้น
โดยเพิ่มเข้าไปในโครงสร้างแผนกที่มีอยู่เดิม
การดำเนินงานระหว่างประเทศจะได้รับการบริหารโดยแยกเป็นธุรกิจออกไป
ซึ่งผู้จัดการจะได้รับมอบอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบในการร่วมมือกับแผนกการผลิตภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ
แผนกระหว่างประเทศจะควบคุมสาขาต่าง ๆ ประเทศที่เป็นตลาดผลิตภัณฑ์
และมอบอำนาจหน้าที่ให้เป็นฝ่ายบริหารของแต่ละประเทศ
การจัดการเช่นนี้จะมีความซักซ้อนมากขึ้นโดยจะต้องให้สัมพันธ์กับต้นทุนแบบระบบราชการที่ต่ำ
อย่างไรก็ตามผู้จัดการในต่างประเทศจะอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้จัดการแผนกระหว่างประเทศ
3.กลยุทธ์ระดับโลกและโครงสร้าง (Global strategy and structure) บริษัทเข้าสู่กลยุทธ์ระดับโลกเมื่อเริ่มจัดตั้งหน่วยการผลิต
และกิจกรรมการสร้างคุณค่าอื่น ๆ ทั้งหมดทั่วโลกที่มีต้นทุนต่ำ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ (Efficiency)
คุณภาพ (Quality) และนวัตกรรม (Innovation) ในการแสวงหาประโยชน์จากกลยุทธ์ระดับโลกนี้
บริษัทต้องใช้ความร่วมมือมากขึ้นและต้องมีปัญหาในการรวมตัวกัน
ในการถ่ายโอนทรัพยากรระหว่างสำหนักงานใหญ่ของบริษัทกับแผนกต่างประเทศ
และในขณะเดียวกันก็ต้องจัดการควบคุมแบบรวมอำนาจซึ่งใช้ในกลยุทธ์ระดับโลก
4.กลยุทธ์ข้ามชาติและโครงสร้าง (Transnational strategy and
structure)
เป็นการจัดการซึ่งองค์การหนึ่งใช้กลยุทธ์การรวมตัว (Intergration strategy) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์การระดับโลก
ความล้อเหลวที่สำคัญของโครงสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั่วโลก คือ ขณะที่บริษัทมีประสิทธิภาพและคุณภาพที่ดีเลิส
แต่จะมีจุดอ่อนในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า
เพราะยังคงมุ่งอยู่ที่การควบคุมแบบรวมอำนาจเพื่อลดต้นทุน
นอกจากนี้โครงสร้างลักษณะนี้ยังยากสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลและความรู้
ในบางครั้งการได้รับผลประโยชน์จากการใช้ผลิตภัณฑ์ การตลาด
หรือวิจัยและพัฒนาความรู้ระหว่างกลุ่มผลิตภัณฑ์ร่วมกันจะมีสูงมาก
ต่อเนื่องจากบริษัทขาดโครงสร้างในการรวมกลุ่มกิจกรรมได้จึงไม่สามารถสร้างประโยชน์จากกลยุทธ์นี้
5.กลยุทธ์โครงสร้างแมททริกซ์ระดับโลก (Global-matrix structure)
เป็นโครงสร้างองค์การในระดับโลกซึ่งเป็นการจัดโครงสร้างใหม่ซ้อนบนโครงสร้างตามหน้าที่
โครงสร้างจึงเป็นการเชื่อมโครงสร้าง 2
ประการเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากความสัมพันธ์ของ 2 เกณฑ์ร่วมกันให้มากที่สุด